วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

1.2 อุบัติเหตุจากสารเคมี

1.2.อุบัติเหตุจากสารเคมี

     ในการทำปฏิบัติการเคมีอาจเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ จากการใช้สารเคมีได้ ซึ่งหากผู้ทำ
ปฏิบัติการมี
ความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจะสามารถลดความรุนแรงและความเสียหายที่เกิด
ขึ้นได้ โดยการ
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากอุบัติเหตุจากการใช้สารเคมี มีข้อปฏิบัติดังนี้
การปฐมพยาบาลเมื่อร่างกายสัมผัสสารเคมี
     1. ถอดเสื้อผ้าบริเวณที่เปื้อนสารเคมีออก และซับสารเคมีออกจากร่างกายให้มาก
ที่สุด
     2. กรณีเปื้อนสารเคมีที่ละลายน้ำได้ เช่น กรดหรือเบส ให้ล้างบริเวณที่สัมผัส
สารเคมีด้วยการ
เปิดน้ำไหลผ่านปริมาณมาก
     3. กรณีเป็นสารเคมีที่ไม่ละลายน้ำ ให้ล้างบริเวณที่สัมผัสสารเคมีด้วยน้ำสบู่
     4. หากทราบว่าสารเคมีที่สัมผัสร่างกายคือสารใด ให่ปฏิบัติตามข้อกำหนดใน
เอกสารความ
ปลอดภัยของสารเคมี
     กรณีที่ร่างกายสัมผัสสารเคมีในปริมาณมากหรือมีความเข้มข้นสูง ให้ปฐมพยาบาล
เบื้องต้นแล้ว
นำส่งแพทย์
การปฐมพยาบาลเมื่อสารเคมีเข้าตา
     ตะแคงศีรษะโดยให้ตาด้านที่สัมผัสสารเคมีอยู่ด้านล่าง ล่างตาโดยการเปิดน้ำเบา ๆ 
ไหลผ่าน
ดั้งจมูกให้น้ำไหลผ่านตาข้างที่โดนสารเคมี ดังรูป 1.5 พยายามลืมตาและกรอกตาในน้ำ
อย่างน้อย 10
นาที หรือจนกว่าแน่ใจว่าชะล้างสารออกหมดแล้ว ระวังไม่ให้น้ำเข้าตาอีกข้างหนึ่ง
 แล้วนำส่งแพทย์ทันที
การปฐมพยาบาลเมื่อสูดดมแก็สพิษ
     1. เมื่อมีแก็สพิษเกิดขึ้น ต้องรีบออกจากบริเวณนั้นและไปบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท
สะดวกทันที
     2. หากมีผู้ที่สูดดมแก็สพิษจนหมดสติหรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องรีบ
เคลื่อนย้าย
ออกจากบริเวณนั้นทันที โดยที่ผู้ช่วยเหลือต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม เช่น
หน้ากากป้องกัน
แก็สพิษ ผ้าปิดปาก
     3. ปลดเสื้อผ้าเพื่อให้ผู้ประสบอุบัติเหตุหายใจได้สะดวกขึ้น หากหมดสติให้
จับนอนคว่ำและ
ตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อป้องกันโคนลิ้นกีดขวางทางเดินหายใจ
     4. สังเกตการเต้นของหัวใจและการหายใจ หากว่าหัวใจหยุดเต้นและหยุดหายใจ
ให้นวดหัวใจ
และผายปอดโดยผู้ที่ผ่านการฝึก แต่ไม่ควรใช้วิธีเป่าปาก (mouth to mouth)
 แล้วนำส่งแพทย์ทันที
การปฐมพยาบาลเมื่อโดนความร้อน
     แช่น้ำเย็นหรือปิดแผลด้วยผ้าชุบน้ำจนหายปวดแสบปวดร้อน แล้วทายาขี้ผึ้ง
สำหรับไฟไหม้
และน้ำร้อนลวก หากเกิดบาดแผลใหญ่ให้นำส่งแพทย์
กรณีที่สารเคมีเข้าปากให้ปฏิบัติตามคำแนะนำตามเอกสารความปลอดภัย
แล้วนำส่งแพทย์ทุกกรณี
http://www.scimath.org

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

1.1 ความปลอดภัยในการทำงานกับสารเคมี

1.1 ความปลอดภัยในการทำงานกับสารเคมี

     การทำปฏิบัติการเคมีส่วนใหญ่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับสารเคมี อุปกรณ์และ
เครื่องมือต่างๆ ซึ่งผู้ปฏิบัติการต้องตระหนักถึงความปลอดภัยของตนเอง ผู้อื่น
 และสิ่งแวดล้อม โดยผู้ทำปฏิบัติการควรทราบเกี่ยวกับประเภทของสารเคมีที่ใช้
 ข้อควรปฏิบัติในการทำปฏิบัติการเคมี และการกำจัดสารเคมีที่ใช้แล้วหลัง
เสร็จสิ้นปฏิบัติการ เพื่อให้สามารถทำปฏิบัติการเคมีได้อย่างปลอดภัย
   
 1.1.1 ประเภทของสารเคมี
     สารเคมีมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน สารเคมีจึงจำเป็น
ต้องมีฉลากที่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นอันตรายของสารเคมีเพื่อความปลอดภัย
ในการจัดเก็บ การนำไปใช้ และการกำจัด โดนฉลากควรมีข้อมูลดังต่อไปนี้
     1.ชื่อผลิตภัณฑ์
     2.รูปสัญลักษณ์ (แสดงความเป็นอันตรายของสารเคมี)
     3.คำเตือน (ข้อมูลความเป็นอันตรายและข้อควรระวัง)
     4.ข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตสารเคมี
     สัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายมีหลายระบบ ในที่นี้จะกล่าวถึง 2 ระบบ
คือ GHS(เป็นระบบที่ใช้ในสากล) NFPA(เป็นระบบที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา)


ตัวอย่างสัญลักษณ์ระบบ GHS



   

สัญลักษณ์ระบบ NFPA


   
นอกจากฉลากและสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายต่างๆ ที่ปรากฏบน 
บรรจุภัณฑ์ของสารเคมีแล้ว สารเคมีทุกชนิดยังต้องมีเอกสารความปลอดภัย
 ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้สารเคมีอย่างละเอียด เช่น 
สมบัติและองค์ประกอบของสารเคมี ความเป็นอันตราย การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
     1.1.2 ข้อควรปฏิบัติในการทำปฏิบัติการเคมี
     การทำปฏิบัติการเคมีให้เกิดความปลอดภัยนอกจากต้องทราบข้อมูลของ
สารเคมีที่ใช้แล้ว ผู้ปฏิบัติการควรทราบเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเบื้องต้นทั้งก่อน
 ระหว่าง และหลังทำปฏิบัติการ ดังต่อไปนี้
     ก่อนทำปฏิบัติการ
     1) ศึกษาขั้นตอนหรือวิธีการทำปฏิบัติการให้เข้าใจ วางแผนการทดลอง 
หากมีข้อสงสัยต้องสอบถามครูผู้สอนก่อนที่จะทำการทดลอง
     2) ศึกษาข้อมูลของสารเคมีที่ใช้ในการทดลอง เทคนิคการใช้เครื่องมือ 
วัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนวิธีการทดลองที่ถูกต้องและปลอดภัย
     3) แต่งกายให้เหมาะสม เช่น สวมกางเกงหรือกระโปรงยาว สวมรองเท้ามิดชิด
ส้นเตี้ย คนที่มีผมยาวควรรวบผมให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับและคอนแทคเลนส์
     ขณะทำปฏิบัติการ
     1) ข้อปฏิบัติโดยทั่วไป
          1.1 สวมแว่นตานิรภัย สวมเสื้อคลุมปฏิบัติการ สวมถุงมือเมื่อต้องใช้สารเคมี
 สวมหน้ากากที่ต้องใช้สารเคมีที่มีไอระเหย
          1.2 ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม หรือกิจกรรมอื่นๆ ในขณะที่ปฏิบัติการ
          1.3 ไม่ทำการทดลองในห้องปฏิบัติการเพียงลำพัง
          1.4 ไม่เล่นหรือรบกวนผู้อื่นในขณะทำการปฏิบัติการ
          1.5 ปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีอย่างเคร่งครัด
          1.6 ไม่ปล่อยให้อุปกรณ์ให้ความร้อน
     2) ข้อปฏิบัติในการใช้สารเคมี
          2.1 อ่านชื่อสารเคมีบนฉลากให้แน่ใจก่อนนำสารเคมีไปใช้
          2.2 การเคลื่อนย้าย การแบ่ง และการถ่ายเทสารต้องทำด้วยความระมัดระวัง
          2.3 การทำปฏิกิริยาของสารในหลอดทดลอง ต้องห้ามหันปากหลอดทดลอง
ออกจากตัวเองและผู้อื่นเสมอ
          2.4 ห้ามชิมหรือสูดดมสารเคมีโดยตรง ถ้าจำเป็นต้องทดสอบกลิ่นให้ใช้มือโบก
ให้ไอของสารเข้าจมูกเพียงเล็กน้อย
          2.5 การเจือจางกรด ห้ามเทน้ำลงกรดแต่ให้เทกรดลงน้ำ เพื่อให้น้ำปริมาณมาก
ช่วยถ่ายเทความร้อนที่เกิดจากการละลาย
          2.6 ไม่เทสารเคมีที่เหลือจากการเทหรือตักออกจากขวดสารเคมีแล้วกลับเข้า
ขวดอย่างเด็ดขาด ให้เทใส่ภาชนะทิ้งสารที่จัดเตรียมไว้
          2.7 เมื่อสารเคมีหกในปริมาณเล็กน้อยให้กวาดหรือเช็ด แล้วทิ้งลงในภาชนะ
สำหรับทิ้งสาร หากหกในปริมาณมากควรแจ้งครูผู้สอน
     หลังทำปฏิบัติการ
     1) ทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องแก้ว และวางหรือเก็บในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้ 
รวมทั้งทำความสะอาดโต๊ะทำปฏิบัติการ
     2) ก่อนออกจากห้องปฏิบัติการให้ถอดอุปกรณ์ป้องกันอันตราย เช่น 
เสื้อคลุมปฏิบัติการ แว่นตา นิรภัย ถุงมือ
     1.1.3 การกำจัดสารเคมี
     1) สารเคมีที่เป็นของเหลวไม่อันตรายที่ละลายน้ำได้และมีpHเป็นกลาง 
ปริมาณไม่เกิน 1 ลิตร สามารถเทลงอ่างน้ำและเปิดน้ำตามมากๆได้
     2) สารละลายเข้มข้นบางชนิด เช่น กรดไฮโดรคลอริก โซเดียมไฮดรอกไซต์ 
ไม่ควรทิ้งลงอ่างน้ำหรือท่อน้ำทันที ควรเจือจางก่อนเทลงอ่างน้ำ ถ้ามีปริมาณมากต้องทำเป็นกลางก่อน
     3) สารเคมีที่เป็นของแข็งไม่อันตราย ปริมาณไม่เกิน 1 กิโลกรัม สามารถใส่
ในภาชนะที่ปิดมิดชิดพร้อมทั้งติดฉลากชื่อให้ชัดเจน ก่อนทิ้งในที่ซึ่งจัดเตรียมไว้
     4) สารไวไฟ ตัวทำละลายที่ไม่ละลายน้ำ สารประกอบของโลหะเป็นพิษ 
หรือสารที่ทำปฏิกิริยากับน้ำ ห้ามทิ้งลงอ่างน้ำ ให้ทิ้งไว้ในภาชนะที่ทาง
ห้องปฏิบัติการจัดเตรียมไว้ให้